ในโลกที่มีความซาบายและอิทธิภาพเป็นอันมาก เด็กๆก่อนแน่นอนจะมีความสนใจอยู่กับสิ่งที่ไม่ทราบก่อน บทความนี้จะนำเด็กๆไปสู่การเรียนรู้และการสำรวจ ผ่านการสนทนาที่มีความสนุก เรื่องสวยงามที่สามารถปฏิสนิทกัน และเกมส์ที่ง่ายต่อใจ เด็กๆจะสามารถเรียนภาษาอังกฤษได้ในบรรยากาศที่สบายและอิ่มใจ การเริ่มต้นทางการเดินทางของภาษาอังกฤษของพวกเราจะเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น! ขอให้พวกเราร่วมเดินทางในระหว่างการเรียนภาษาอังกฤษที่น่าตื่นเต้นนี้เด็ดขาดดังกล่าว!

ปลายเวลาของวันในสวนสาธารณะ

เร็วๆนี้ค่ะ นายหม่อมด้วยนายแม่ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ นายหม่อมตื่นเต้นด้วยความอึดอึดต่อสิ่งต่างๆ ที่มีในสวน

นายหม่อม: แม่ดูนั้นมีหนุ่มไก่หลายตัว!

แม่: ใช่นะ นายหม่อม นั่นเป็นหนุ่มไก่ พวกมันกำลังว่ายน้ำในน้ำ ดูเหมือนจะมีความสุขอยู่

นายหม่อม: แม่นายหม่อมว่าหนุ่มไก่จะว่ายน้ำได้ไหม?

แม่: ตองได้นะ นายหม่อม หนุ่มไก่เป็นสัตว์น้ำ พวกมันเกิดในน้ำและมีพฤติกรรมว่ายน้ำ

นายหม่อม: แม่นายหม่อมจะเรียนว่ายน้ำไหม?

แม่: ใช่นะ นายหม่อม ให้เรากลับบ้านแล้วก่อนหน้านี้เราจะไปหลักฐานว่ายน้ำด้วยกันได้

พวกเขายังคงเดินเล่นในสวน นายหม่อมเห็นสิ่งต่างๆ ที่เขาสนใจมาก

นายหม่อม: แม่ดูนั้นมีใบบังคับหลายตัว!

แม่: ใช่นะ นายหม่อม ใบบังคับดูง่ายยะนี้ มีสีงายหลากหลาย

นายหม่อม: แม่นายหม่อมว่าใบบังคับจะบินได้ไหม?

แม่: ใช่นะ นายหม่อม ใบบังคับมีขากรรไกร พวกมันบินด้วยการเคลื่อนไหวของขากรรไกร

นายหม่อม: ฉันอยากเรียนบิน!

แม่: ใช่นะ นายหม่อม ให้เรากลับบ้านแล้วก่อนหน้านี้เราจะไปสวนเรียนบินด้วยกันได้

พวกเขายังคงเดินเล่นในสวน นายหม่อมเห็นสิ่งต่างๆ มากมาย

นายหม่อม: แม่นายหม่อมว่าหนูนั้นบนต้นร้องเสียงดีเหมือนนักร้อง!

แม่: ใช่นะ นายหม่อม หนูนั้นเป็นนักร้อง พวกมันร้องเสียงดี

นายหม่อม: ฉันอยากร้องเสียง!

แม่: ใช่นะ นายหม่อม ให้เรากลับบ้านแล้วก่อนหน้านี้เราจะไปหลักฐานเรียนร้องด้วยกันได้

พวกเขามาถึงสวนเล่น

นายหม่อม: แม่ดูนั้นเป็นสลายที่ฉันอยากเล่น!

แม่: ใช่นะ นายหม่อม เราจะไปเล่นด้วยกันได้

ในช่วงเวลาที่เล่นที่สวน นายหม่อมไม่เฉพาะทราบความรู้ใหม่แต่ยังได้เจริงวันเยี่ยมกับแม่ด้วยความสุขมาก

บนเพดานต้นไม้

วันอาทิตย์ที่มีแสงแดดอย่างมีนวลเงียบ หมองเหล็กและเพื่อนๆของเขาตัดสินใจที่จะไปสวมตัวที่สวนสาธารณะ พวกเขามาถึงบริเวณป่าหนาแน่น ต้นไม้สูงส่ง แสงแดดที่สลัดผ่านกิ่งไม้ทำให้เกิดแสงสีสันต์ที่ดินเรียบร้อย หมองเหล็กจับตามองหลังต้นไม้และวิ่งว่า “ทั้งคุณชมได้ไหม นกเหล่านี้กำลังทำอะไรนี้?”

หญิงหมองหวานจับเลนส์ดูละแวกสูงแล้วชี้ไปยังหลังต้นไม้ว่า “น่าจะว่าพวกมันกำลังพูดกับกัน” หมองเหล็กจับตาดูเช่นกันแล้วพบนกเล็กๆกำลังกระโดดตะโกนบนกิ่งไม้และของแสงร้องอย่างมีความงาม

หญิงหมองหวานนำแท้งคู่เสียงว่า “เราเองจะบันทึกเสียงร้องของนกด้วย แล้วเราจะได้เรียนรู้มากยิ่งขึ้น” พวกเขาเรียบร้อยเพื่อจับตาดูและบันทึก พบว่านกต่างๆมีเสียงร้องที่ต่างกัน บางตัวเสียงเสียงสวนต้น บางตัวเสียงแรงเรียบ

หมองเหล็กบอกยิ้มยิ่งว่า “ฉันรู้แล้ว นกเหล่านี้ร้องเสียงว่า ‘tweet’ และ ‘chirp’ และ ‘tweet tweet’” หญิงหมองหวานเห็นเหมือนกันแล้วยันว่า “ใช่นะ นี้เป็นเสียงร้องของนก” พวกเขาก็เริ่มจำลองเสียงร้องของนก ทำให้นกต่างๆที่ใกล้ๆมาติดตามพวกเด็กเหล่านี้ หมองเหล็กยิ้มแล้วว่า “ดูเหมือนเสียงร้องของเราก็กลายเป็นภาษาของพวกมันแล้ว”

พวกเขาก็ยังคงเล่นเล่นในป่า บันทึกเสียงร้องของนก และยังพบสัตว์อื่นๆเช่น หมากใบที่กระโดดตะโกนบนต้นไม้ หรือหนาวใบที่ตะโกนบนข้างทะเลสาบ และมองเห็นเชื้อพันธุ์ขาวมองเหมือนกันที่บันทึกอาหาร

หญิงหมองหวานรู้สึกยินดีว่า “ธรรมชาติเป็นสิ่งที่น่าตื่นตระหนกมาก แต่ละสิ่งมีภาษาและวิธีที่มันทำงาน” หมองเหล็กยันยันกันว่า “ใช่นะ พวกเราต้องคุ้มครองพวกมันและปกป้องสิ่งแวดล้อมของเรา”

ขณะฝายดวงอาทิตย์ตกลง เด็กๆเหล่านี้ก็หันหลังกับความรู้และความยินดีที่มาก พวกเขาตระหนักว่าประสบการณ์นี้ไม่เพียงแค่ให้พวกเขาเรียนรู้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ แต่ยังให้พวกเขาเข้าใจความสำคัญของการมีความสง่านานาฟ้ากับธรรมชาติด้วยเช่นกัน

ที่นั่งเล่น

เด็กๆ แห่งนี้รู้สึกยิิงยากในช่วงบ่ายที่มีแสงแดดและอากาศชัดเจน พวกเขามาที่สวนเด็กด้วยความยินดีเสียใจ ที่นั่นมีหญ้าสีเขียวขวางแห่งกว้างขวางและดอกไม้ป่าสีสันสดใสกระจายอยู่บนหญ้า เด็กๆ ก็รี้กันล่าเล่นกันบนหญ้า และเสียงไหว้วายของพวกเขาสะท้อนมาตลอด

“มองเห็นไหม! มีตะกร้าว!” ลูกสาวเล็กหนึ่งเสียงกล่าวด้วยความยินดี

“แอ๊ มีสลไลด์!” ลูกเด็กชายหนึ่งบอกที่ทิศทางอื่น

เด็กๆ ตะละกันไปที่สิ่งเล่นที่พวกเขาสนใจ ขณะที่พวกเขาวิ่งวายและพูดกันตลอดทาง

“มีอะไรที่คุณอยากเล่นก่อน?” ลูกสาวเล็กหนึ่งถามเพื่อนของตน

“ฉันอยากลงสลไลด์!” พื่อนของเธอตอบ

พวกเขาตะละกันรอให้ถึงเมื่อมาถึงครอบครัวแล้วลงสลไลด์ตามลำดับหนึ่งต่อหนึ่ง และเสียงเสียงร้องและเสียงไหว้วายของพวกเขาสะท้อนมาตลอดอากาศ

“มันเป็นสนุกมาก!” ลูกเด็กชายหนึ่งบอกด้วยความยินดี

เด็กๆ ล่องลงหญ้าสวนและเล่นสนุกตลอดเวลา พวกเขาเล่นหนักแล้วก็หาที่นั่งมาอยู่และหารือกัน

“คุณชอบสวนนี้ไหม?” ลูกสาวเล็กหนึ่งถามเพื่อนของตน

“ใช่ สวนนี้เป็นสวนที่ดีมาก!” พื่อนของเธอตอบ

พวกเขาหารือกันตลอด และตั้งตารอว่าสายตาที่เปลี่ยนเป็นเวลาแล้ว ต้องกลับบ้านแล้ว

“เวลาแล้วที่จะกลับบ้าน” ลูกสาวเล็กหนึ่งบอก

“ใช่ พวกเราควรกลับบ้านตอนนี้” พื่อนของเธอเห็นด้วย

เด็กๆ จัดการสิ่งของเสร็จแล้วและออกจากสวนด้วยกัน และกลับบ้านด้วยเท้าของพวกเขา หนึ่งวันที่พวกเขาสวยงามที่สวนนี้

หลอดหายใจ

ข้างหลังกลางวันที่มีแสงอาทิตย์รอยแรงในปาร์คที่มีความสนุกสนานมากมาย มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลังเดินทางมาที่นั่น มิ่มหลั

ปลา วานิชย์

สง่าวันที่แจ่มแจ้งมีลูกเด็กนายเมี้ยวและสุนัขของเขาตัวเด็ด ซึ่งชื่อว่า ม่ายแขม ได้มาที่สวนสาธารณะในช่วงบ่ายที่แจ่มแจ้งเช่นนี้ พวกเขาเดินบนทางแยกที่เรียบร้อย และสนุกกับสภาพแวดล้อมที่มีทัศนลึกทั้งหลาย

ม่ายแขมได้ตื่นตัวเต้นเตือนโดยเลี้ยงหูเรียงร้อย ดูเหมือนว่าพวกมันได้พบอะไรบางอย่าง นายเมี้ยวก็ตามล่างมาตามม่ายแขม และพบสวนที่มีหญ้าสีเขียวที่มีมากล้อมรอบ บนหญ้ามีกางเขนใหญ่หนึ่งและชายตาของที่จัดเรียบร้อย

นายเมี้ยวนั่งบนกางเขน ม่ายแขมขับเข้ามาขับออกไปทั้งสอง นายเมี้ยวเริ่มขับกางเขน สนุกกับลมที่ลอยผ่านร่างกายของเขา อาจะเห็นท้องฟ้าจากด้านหน้า ในใจของเขาเต็มไปด้วยความยินดี

เมื่อกางเขนขับไปที่สูงที่สุด นายเมี้ยวสามารถมองเห็นทั้งประเทศสวน ที่มีเป็ดบนบริเวณที่ข้างแม่น้ำที่เล่นเลียนกันในน้ำ เด็กๆ ที่เล่นเลียนกันบนหญ้า และผู้สูงวัยที่เดินเดินอย่างอิสระ

นายเมี้ยวและม่ายแขมใช้ช่วงบ่ายนี้ด้วยกันในสวนสาธารณะอย่างสนุกสนาน พวกเขาเล่นตามกัน สำรวจตามกัน และสนุกกับธรรมชาติที่มีความงามแห่งนี้

ขณะที่สายฝนเริ่มขึ้น นายเมี้ยวและม่ายแขมกลับบ้านด้วยความมีความภาคาบังเพลิงของความดี พวกเขารู้ดีว่าความทรงจำนี้จะมีอยู่ในใจของพวกเขาตลอดไป

สิ้นสุดของเทวดา

ในอาณาจักรที่ห่างไกลนี้ มีสวนที่มีอาภรณ์และมีมังกรที่อาศัยอยู่ด้วยกันมากมาย ทั้งหมดมีลักษณะเฉพาะเจาะจง และมีความสงบสุขกันด้วยกัน พวกเขาร่วมกันปกป้องเขตแดนที่งามลึกของพวกเขา

หนึ่งวัน แมวของสวนชื่อมิมิ ได้เรียนรู้ว่าพูดภาษาอังกฤษ มันตัดสินใจที่จะใช้ภาษาใหม่นี้เพื่อช่วยเหลือสัตว์อื่น มิมิได้มาที่เรือนของหงส์เล็กและพูดด้วยความอ่อนไหวว่า: “precise morning, little chicken. How are you today?”

หงส์ที่ได้ยินเสียงของมิมิ แสดงความยินดีทันที ตอบว่า: “desirable morning, มิมิ! I’m thoroughly, thank you. How about you?”

มิมิยิ้มและตอบว่า: “I’m high-quality too. concentrate, I’ve found out some new phrases. are you able to help me practice them?”

หงส์เอ่ยมือติดตามและฝึกซ้อมทันที ขณะที่มันกำลังเรียนรู้และสนุกสนานกับการประชุมนี้

ไม่นานหลังจากนั้น มิมิได้เจอหนูในสวน หนูเข้ามาหามิมิเพื่อที่จะบอกว่า: “มิมิ คุณกำลังพูดกับใครตอนนี้?”

มิมิยิ้มและตอบว่า: “Oh, it’s my new buddy, the little chook. I’m teaching him some English words.”

หนูที่ได้ยิน ก็เข้ามาเรียนร่วมกันด้วย มิมิได้สอนให้พวกมันบางคำวากพื้นฐานของการชมพูดว่า: “hey, how are you, good-bye, please, thanks, sorry, proper morning, accurate afternoon, exact nighttime.”

ขณะที่ผ่านไป สัตว์ทั้งหมดในสวนได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษและใช้ภาษาใหม่นี้เพื่อการสนทนา พวกเขากลายเป็นมิตรที่ใกล้ชิดกันมากขึ้น ชีวิตในสวนก็กลายเป็นระเบียบชาติที่มีความงามมากขึ้น และทุกสัตว์ต่างก็รู้สึกยิิงยานที่เรียนรู้จากภาษาอังกฤษได้ดี

ในสวนที่มีอาภรณ์นี้ ภาษาอังกฤษกลายเป็นทางเชื่อมของมิตรภาพ สัตว์ทั้งหมดได้เรียนรู้ว่าจะเคารพเอื้อต่อกันและเติบโตร่วมกัน ทั้งนี้ทุกอย่างที่เริ่มต้นด้วยแมวขนาดเล็กมิมิ ที่ใช้พลังของภาษาอังกฤษที่ทำให้สวนนี้มีความงามมากขึ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *