ในวันอาทิตย์ที่มีแสงแดดอย่างแพร่พulan มิ่ง และ หมิ้ง ได้ตัดสินใจไปตะเคียนเพราะความน่าอยากและความสนุกสนานที่เป็นส่วนนี้ พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะเริ่มการอุทยานนอกเมืองของพวกเขาอย่างตลอดตลอดทางขอบคุณความใส่ใจของพวกเขาครับ

เริ่มต้นด้วยการโดยสารเดินทางการออกหาสนุกตามปริมาณ

ในเช้าวันแห่งแสงและความร้อนใจ จิ๊ก และเพื่อนๆ ของเขาตัดสินใจที่จะไปสนุกที่สวนใกล้บ้านพวกเขา พวกเขาเอามือข้างต่อกันและโห่ยน่าตะลึงกับการออกเดินทางนี้

“เราต้องการหาอะไรบ้างนะ?” จิ๊กได้ถามโดยความสนใจ

“เราจะหาสิ่งที่เจอในสวนและบอกเล่าด้วยภาษาอังกฤษ!” พื่อนของจิ๊ก สมายเมย์ ตอบกลับ

พวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ดอกไม้สวนในตอนแรก จิ๊กเห็นดอกมะลิสีแดง และเขาก็ยกมือไปแสดงและบอก “red rose!”

สมายเมย์สังเกตเห็นพื้นที่หญ้าที่สีเขียวเข้มและบอก “inexperienced grass!”

ต่อมาพวกเขามุ่งหน้าไปที่แม่น้ำเล็ก จิ๊กเห็นน้ำที่สะอาดและบอก “clear water!”

สมายเมย์สังเกตเห็นปลาในน้ำและบอก “Fish in the water!”

พวกเขาก็เดินต่อไปจนมาถึงสวนเล่นเด็ก จิ๊กเห็นสลายดาวและบอก “Slide!”

สมายเมย์สังเกตเห็นเครื่องสวิงและบอก “Swing!”

พวกเขาเดินและพูดกันตลอดทาง บอกเล่าด้วยภาษาอังกฤษเกี่ยวกับแต่ละส่วนของสวน แต่ว่าพวกเขาหาได้ทุกอย่าง ก็จะบอกเล่าด้วยภาษาอังกฤษและแบ่งปันกัน

ในการเดินทางสนุกที่สวนนี้ จิ๊กและเพื่อนๆ ไม่เพียงแต่จะฝึกฝนภาษาอังกฤษแต่ยังเพิ่มความเกี่ยวข้องกันด้วยด้วย พวกเขารู้ว่าเมื่อมองด้วยใจ ทุกที่ในชีวิตเป็นที่สนุกเรียนรู้

บริเวณป่าที่ลึกลับ การค้นพบ

บริเวณวันที่อากาศชัดเย็น ทางตะอางสว่าง วัยนิเวศชายนายมีน กับเพื่อนๆ ได้มาที่ป่าที่มีร่มที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้มากมาย ที่ดูเหมือนเป็นอาณาจักรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราว อากาศแบ่งด้วยความสะอาดสวนที่มาก

นายมีนมีความดุดลามที่จะหมุนเวียนดูความสนใจต่าง ๆ ต่อบริเวณที่เขามาพบ จนกระทั่งพวกเขาพบทางเล็กแห่งหนึ่งที่ด้านข้างทางเล็กนั้น พื้นดินข้างทางเล็กตกลงหลายหินที่มีรูปร่างที่แปลกไปกว่าปกติ และหลังจากนั้นมีตัวอักษรที่หลอดด้วยมists ไม่สามารถอ่านได้

นายมีนกระโดดไปรวบหินหนึ่งแล้วพบว่ามีตัวอักษรที่เขียนว่า “tree”

“เห็นไหม! ‘tree’!” นายมีนกล่าวด้วยความดุดลาม, “นั่นก็คือต้นไม้!” พวกเขายังคงเดินไปตามทางเล็กแล้วพบว่าหินแต่ละลำมีตัวอักษรที่ซ่อนอยู่

บางหินมีรูปหงส์กับตัวอักษร “chook”;บางหินมีรูปแม่น้ำกับตัวอักษร “river”;และบางหินมีรูปแสงอาทิตย์กับตัวอักษร “solar”

“ตัวอักษรเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราจะพบในป่า!” นายมีนกล่าวด้วยความดุดลาม

พวกเขารวบรวมหินเหล่านี้อย่างไร้ขั้วโกน และทุกครั้งที่พบตัวอักษรใหม่ พวกเขาจะรู้สึกเป็นผู้ที่มีความสำเร็จ ในขณะที่พวกเขาก็ได้เรียนรู้วิธีที่จะอธิบายสิ่งแวดล้อมของพวกเขาด้วยภาษาอังกฤษ

ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาได้มาถึงพื้นที่บริเวณที่กว้างขวาง ที่มีต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง กำลังอยู่ด้านล่างต้นไม้นั้นมีหินใหญ่และหินดังกล่าวมีตัวอักษรที่เขียนว่า “forest” นายมีนและเพื่อนๆ แวะอยู่ข้างหินแล้วเริ่มคาดคะเนว่าตัวอักษรต่อไปจะเป็นอะไร

“ตัวอักษรต่อไปคงจะเป็น ‘animal’ ใช่ไหม?” นายมีนคาดคะเน

ในตอนที่ลมไปข้างหน้า ต้นไม้เตลึงเสียง จากนั้นอย่างตอมตัน หนูตะขอบลาวาลลงมาจากต้นไม้แล้วมองมาดูบรรดาเด็กเล็กที่อยู่ในบริเวณนั้น นายมีนกล่าวเห็นหนูตะขอบลาวาลว่า “‘animal’! ‘animal’!” หนูตะขอบลาวาลดูเหมือนจะเข้าใจความเห็นของนายมีน มันก้มหางด้วยและจากนั้นจึงวิ่งกลับขึ้นไปบนต้นไม้

นายมีนและเพื่อนๆ ยิ้มกันด้วยความยินดี เพราะพวกเขาไม่เพียงแต่หาตัวอักษรใหม่ แต่ยังได้สื่อสารอย่างน่าดีกับสัตว์เล็กของป่าด้วย

การประสบการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ตัวอักษรภาษาอังกฤษใหม่ แต่ยังทำให้พวกเขารักภูมิที่ซับซ้อนของธรรมชาติ และเข้าใจว่าการปกป้องสิ่งแวดล้อมนั้นมีความสำคัญมาก

:ซ่อนเร้นของซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร์ซากภาพภาพยนตร

หนึ่งในหน่วยงานสองบทบาท,เด็กๆ ได้เข้าไปในป่าที่มีนาทีร์สิงห์ประหลาด ตรงหน้าพวกเขาคือภาพที่สวยงามโดยมีสีสันสลับกันมากมาย. แสงแดดไฝฟ้าผ่านริมต้นไม้ ตกลงบนพื้นดิน และก่อให้เกิดร่องแสงที่แตกต่างกัน. พวกเขาพบบ้านไม้เล็กๆ ซึ่งซ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ ที่ประตูบ้านมีตารางเล็กๆ บนด้านล่างตั้งไว้และที่บนตารางมีเรื่องที่เป็นข้อเรียกของตัวย่อ.

  1. ข้อเรียกของประโยคแรก:บนตารางมีภาพของปลาและกุ้ง ข้างของภาพเขียนไว้คำว่า “fish” และ “crab”. เด็กๆ ต้องหาคำที่เกี่ยวข้องกับปลาและกุ้ง.

  2. ข้อเรียกของประโยคที่สอง:ข้อเรียกของประโยคที่สองเป็นภาพของอาทิตย์และจันทร์ ข้างของภาพเขียนไว้คำว่า “sun” และ “moon”. เด็กๆ ต้องหาคำที่แสดงถึงอาทิตย์และจันทร์.

three. ข้อเรียกของประโยคที่สาม:ข้อเรียกของประโยคที่สามเป็นภาพของรั้ว ข้างของภาพเขียนไว้คำว่า “hen”. เด็กๆ ต้องหาคำที่เกี่ยวข้องกับรั้ว.

เด็กๆ สนใจตรวจสอบภาพต่าง ๆ และคิดค้นคำตอบ. พวกเขาสงสัยว่าข้อเรียกของประโยคนี้ไม่เพียงแค่ทดสอบความรู้ความรู้จักของพวกเขาเกี่ยวกับภาษา แต่ยังทดสอบความรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับธรรมชาติด้วย. ในขณะที่แก้ข้อเรียกของประโยค พวกเขาไม่เพียงแค่ได้รับคำศัพท์ใหม่ แต่ยังได้รับความรู้ที่มากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับธรรมชาติ.

เมื่อข้อเรียกของประโยคถูกแก้ได้ตามตาม เด็กๆ รู้สึกได้ประสบการณ์ความสำเร็จที่ไม่เคยมีมาก่อน. พวกเขารู้ว่า หากพวกเขามองเห็นอย่างรอบคอบและต้องการสำรวจ ธรรมชาตินั้นมีความลับที่มากมายเพื่อที่พวกเขาจะได้ค้นหา.

สายตาที่แสดงความฉลาด ในการเปิดเผยปริมาณความลับ

หนึ่งวันนึงในดินแดนป่าลึกลับลึกที่นั้น ต่อรองแล้วจะมีไอ้ซู่และเพื่อนร่วมโยนาการค้นหาพื้นที่ว่างที่ถูกใบไม้และหญ้าเลี้ยงหลังจากที่พวกเขาพบแล้วที่มีหินที่มีรูปร่างที่ต่างกันอยู่ทั่วไป ในแต่ละหินมีข้อปรับปรุงที่ย่อยยะออกมาเป็นประโยคที่ชัดเจนที่เชื่อมโยงพวกเขาให้เข้าร่วมกับการค้นหาคำศัพท์ที่ซ่อนอยู่ในป่า

“ทำนองนี้มีคำศัพท์หนึ่งที่ถูกทาสีมัว พวกเราต้องหาที่ที่ถูกต้องของมัน” ไอ้ซู่ชี้ไปยังหินที่มีคำศัพท์ “tree” กล่าว

พวกเขาเริ่มต้นที่จะเก็บตาลองพบที่ที่ถูกต้องของคำศัพท์นี้ แล้วในต้นไม้ใหญ่หนึ่ง พวกเขาพบที่ที่ถูกต้องของคำศัพท์ “tree”

หลังจากนั้น พวกเขามาถึงแม่น้ำเล็กที่มีน้ำแล่นโดยสะดวก ข้างหินที่เขียน “river” ซึ่งมีน้ำลายที่ทำให้คำศัพท์เหมือนจะเป็นน้ำลาย จึงต้องลองละเอียดมากขึ้นในการหาคำศัพท์ที่ถูกต้อง

หลังจากพยายามหลายครั้ง พวกเขาก็พบที่ที่ถูกต้องของคำศัพท์ “river” แล้ว ขณะนั้นพวกเขาพบหินที่มีภาพนกหนึ่งที่มีข้อความ “chook” ด้านละกัน พวกเขาก็เดินไปตามทาง แล้วไม่นานก็พบที่ที่ถูกต้องของคำศัพท์ “bird” บนต้นไม้หนึ่ง

ด้วยการปรับปรุงหลายรายการข้อปรับปรุง พวกเขาก็เริ่มเห็นความลับของป่าขึ้นมามากขึ้น และคำศัพท์ที่ซ่อนอยู่เหมือนจะเป็นเส้นทางนำพวกเขาไปสำรวจความลับที่มากมายของป่า

“เราทำได้ดีแล้ว!” ไอ้ซู่พึงประหลาดกล่าว “ข้อปรับปรุงต่อไปคืออะไร?” พวกเขาก็ต่อเนื่องที่จะหาอีกคำศัพท์ในป่า

พวกเขาก็หากันต่อไปในป่า และในทุกครั้งที่พวกเขาพบแล้วนั้นจะทำให้พวกเขามีความตื่นเต้นและได้ความสนใจมากขึ้น ในขณะที่พวกเขาเรียนรู้คำศัพท์ใหม่และเรียนรู้ว่าจะทำงานร่วมกันและแก้ปัญหา

ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงจุดกลางของป่า และพบหินใหญ่หนึ่งที่มีคำศัพท์ “treasure” แสดงออกมาเป็นตัวยืนยันที่พวกเขาพบทรัพย์สมบัติของป่า ภายในมีหินที่งดงามและหอมหายใจที่มีความโดดเด่น

“เราเสร็จแล้วในการขุดค้นครั้งนี้!” ไอ้ซู่ร้องยินแล้ว พวกเขารู้ว่าการขุดค้นครั้งนี้จะเป็นหนึ่งในความทรงจำที่ดีที่สุดของวัยเด็กของพวกเขา

สิ้นประกาย: การเดินทางค้นหาความดีความสุข

ครั้งนี้ในการเดินทางค้นคว้าสนุกสนานของเด็กๆ ทางสุดท้ายพวกเขาได้รับความดีและความรู้มากมาย พวกเขาไม่เพียงได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ แต่ยังได้สนุกกับการสำรวจด้วย

เรื่องราวเล็ก:หนูอาเมอและเพื่อนๆ ของเธอในป่าเจ็บได้เผชิญกับแมวที่มีฉลากฉุกเฉิน แมวบอกพวกเขาว่าแต่ละฤดูมีความงามและความสนุกของเอง ฤดูใบไม้ผลิ ทุกอย่างกำลังชี้ชี้ยนิยม ดอกไม้บานขึ้นมา ฤดูร้อน แสงแดดสว่างและแม่น้ำดนตรี ฤดูใบไม้ตก ผลไม้เจริญและใบไม้เปลี่ยนสี ฤดูหนาว หิมะตกและโลกเปลี่ยนเป็นสงบ

เด็กๆ ตัดสินใจที่จะหาข้อบ่งชี้ของฤดูต่างๆ ในป่าและใช้คำศัพท์ที่เรียนรู้มาเองเองเพื่อบรรยายพวกเขา พวกเขาหาและพบดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ หมายเล่นในฤดูร้อน ใบไม้ตกในฤดูใบไม้ตก และหิมะในฤดูหนาว แต่ละครั้งที่พบได้พวกเขาก็จะร้องแสดงความยินดีด้วยคำศัพท์ที่ตอบคล้าย

ช่วงการสนทนา:ในที่สุดแมวที่มีฉลากฉุกเฉินออกคำถามว่า “ถ้าคุณเป็นรักษาสิ่งมีชีวิตคือร่างหน้าง่าย คุณจะเลือกฤดูใดเพื่อบิน?” เด็กๆ จับมือปากและตอบกลับ บางคนบอกฤดูใบไม้ผลิ บางคนบอกฤดูร้อน และบางคนบอกฤดูหนาว แมวที่มีฉลากฉุกเฉินยิ้มและบอกว่า “แต่ละฤดูมีความงามของเอง และเช่นเดียวกับภาษาของเราที่มีความงามและหลากหลาย”

สรุป:การเดินทางค้นคว้าครั้งนี้ทำให้เด็กๆ ได้รับความรู้เกี่ยวกับฤดูและธรรมชาติมากมาย และยังได้สนุกกับการเรียนรู้ด้วย พวกเขากลับบ้านด้วยความดีและความสุข รอคอยช่วงเวลาต่อไปที่จะมีการประสบการณ์น่าสนุกอีกครั้ง

Table of contents

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *